ม.มหิดลเตือน 5 ผักต่อไปนี้กินสุกดี ห้ามกินดิบ รู้ข้อมูลแล้ว…อึ้งไปเลย!! มีผักอะไรบ้าง คลิกเลย

https://www.youtube.com/watch?v=HYX5J1aqpJ8

ขึ้นชื่อว่า “ผัก” คือชื่อก็รู้แล้วว่ามีประโยชน์แค่ไหน เพราะเป็นทั้งแหล่งรวมวิตามิน สารอาหารมากมาย การที่คนเรากินผักกันเป็นจำนวนมากก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกเช่นกัน ถ้าในเมนูอาหารไทยบ้านเรา ที่นิยมนำ “ผักสด” หรือ “ผักแกล้ม” มาทานคู่กับอาหารจานโปรดหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริก แกงเผ็ดหรือ ก้วยเตี๋ยว

แต่เดี๋ยวก่อนการทานผักบางชนิดถ้ากินดิบแล้วจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้เช่นเดียวกัน มหาวิทยาลัยมหิดลออกโรงเตือนกันแล้วว่า ผักชนิดใดบ้างที่หากทานสุกแล้วจะดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าทานดิบจะเป็นอันตรายเลยเชียว

“5 ผักต่อไปนี้กินสุกดี ห้ามกินดิบ”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชนิพรรณ บุตรยี่  (ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพิษวิทยาศาสตร์ทางอาหารและโภชนาการ ) มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า

1. ถั่วงอก ไม่ควรกินสดๆ เพราะมีจำนวนแบคทีเรียปนเปื้อนในปริมาณเยอะมาก เพราะในขั้นตอนการเพาะถั่วงอกต้องอาศัยความชื้นและ แบคทีเรียปนเปื้อนเหล่านั้นก็เติบโตได้ดีในอุณภูมิระดับนั้นเลยทีเดียว แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเชื้อพวกนี้สามารถถูกทำลายได้โดยการผ่านความร้อน
2. กะหล่ำ กับสาร Goitrogen มันจะมีสารชนิดนี้ จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์เพรา สาร Goitrogen ตัวนี้จะทำให้ร่างกายยับยังการดูดซีม lodine นั่นหมายถึงมีผลทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนได้น้อยลง แต่ถ้าหากคนที่ไม่ป่วยเป็นโรคนี้ก็ไม่ต้องกังวัลเรื่องสารพวกนี้ แค่กังวลเรื่องยาฆ่าแมลงก็พอ
3. หน่อไม้และมันต่างๆ กับสาร Cyanide ต้องระวังกันให้มากเพราะสารตัวนี้มีอันตราถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย แต่พอผ่านความร้อนประมาณ 10 นาทีก็สามารถขจัดได้
4.  ถั่วฝักยาวกับสารปนเปื้อน เพราะการปลูกถั่วฝักยาวจะมีการใช้ยาฆ่าแมลงค่อนข้างเยอะพอสมควร ทำให้มีการตกค้างเยอะ ถึงแม้ว่าจะล้างแล้วหากไม่สะอาดเพียงพอก็อาจมีความเสี่ยง
5. ผักโขม กับสาร Oxalic Acid จึงๆแล้วมีประโยชน์ต่อสุขภาพค่อนข้างมาก แต่อีกด้านหนึ่งก็คือการยับยั้งการดูดซึม แคลเซียมและธาตุเหล็ก

ทางดร.ชนิพรรณ บุตรยี่ ยังให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนของการทานผักให้ปลอดภัยอีกด้วยว่า

1. ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จะสามารถขจัดสารเคมีที่ตกค้าง แต่แบคทีเรียก็อาจจะคงอยู่
2. การผ่านความร้อนจะช่วยได้มากในเรื่องของแบคทีเรีย แต่ก็อาจจะเสียคุณค่าทางอาหารไปสักเล็กน้อย บางชนิดก็ควรใช้ความร้อนน้อยและเวลาทีน้อย แต่หากเป็นประเภทที่มีสาร Cyanide ก็ควรต้มนานกว่า 10 นาที