จากผลสำรวจสุขภาพของประชากรไทย เมื่อ 5-10 ปีที่ผ่านมาของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ผู้หญิงไทยเพียง 18.5% ที่รับประทานผักผลไม้ในชีวิตประจำได้ตามเกณฑ์ที่องการอนามัยโลกกำหนด แต่ส่วนที่ควรเฝ้าระวังมากที่สุดก็คือกลุ่มเด็กที่มีอายุ 6-14 ปี พบว่ามีเพียง 6.8% เท่านั้น ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับสารอาหารจากผักและผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม แน่นอนว่าจะเกิดโรคร้ายตามมาอย่างแน่นอน
ไม่มีใครไม่ทราบว่าใน ผักและผลไม้มีสารอาหารนานาชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการดูดซึมคอสเลสเตอรอลและไขมัน ทำให้ช่วยเป็นอย่างดีในเรื่องของระบบการขับถ่ายซึ่งสำคัญกับกลไกการทำงานของร่างกายเป็นอย่างมาก
ในปัจจุบันกระแสการทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารคลีน กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนในสังคมเมือง ทำให้ผู้คนที่ห่วงใยสุขภาพต่างพากันเลือกทานผักและผลไม้นานาชนิดกันเป็นอันดับต้นๆกันเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่ ! ผัก ผลไม้ที่ว่าดีนั้นหากเลือกไม่ดี อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากปัญหา “สารพิษ” ตกค้าง
อยากไรก็ตามจากข้อมูลรายงานของ การสำรวจองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ พบว่าในประเทศไทยมีการใช้ยาฆ่าแมลงมากเป็นอันดับ 5 ของโลก และใช้ยาฆ่าหญ้ามาเป็นอันดับ 4 ของโลกอีกด้วย และที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งประเทศมีมีการตรวจพบสารพิษตกค้างอยู่ในผัก ผลไม้และ ผลิตผลทางการเกษตรหลายหลากตัวที่ทั่วโลกห้ามใช้ เพราะเนื่องจากอันตรายของสารพิษเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นสารก่อโรคมะเร็ง ทำลายเซลล์ตับ กระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของกลไกในร่างกายในหลายส่วน
10 อันดับผักผลไม้สุดอันตรายจากสารพิษตกค้าง
(เปอร์เซ็นการตรวจพบสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลง)
- พริกแดง : ผักที่มีสารอาหารมากมาย ไม่ว่าเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอวันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังมีวิตามินซีที่ช่วยบำรุงและสร้างภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น แต่เชื่อหรือไม่ ! หากไม่ในพริกแดงมีการตรวจพบสารพิษตกค้างมากถึง 100%
- ส้ม : อีกหนึ่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี และไฟเบอร์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามท้แงตลาด จะเรียกได้ว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมอีกชนิดเลยก็ว่าได้ และยิ่งมีความต้องการในตลาดสูง ก็ทำให้มีสารพิษตกสูงมากถึง 100% เช่นเดียวกัน
- ฝรั่ง : ผลไม้แห่งวัยที่จะช่วยชะลอความแก่ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นเลย ฝรั่งยังมีสรรพคุณอย่างการป้องกันโรคเกี่ยวกับหัวใจและสามารถลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งได้อีกด้วย ความต้องการในตลาดที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ มีสารเร่งการผลิตและสารพิษจากยาฆ่าแมลงตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากถึง 100%เช่นเดียวกัน
- แก้วมังกร : อีกหนึ่งผลไม้ที่โดนใจสาวๆได้ แก้วมังกรสามารถช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และยังเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถช่วยลดน้ำหนักและความคุมแคลลอรี่ในร่างกายได้ดีอีกด้วย แต่แก้วมังกรก็เป็นผลไม้อีกชนิดที่มีสารตกค้างมากถึง 71%
- มะละกอ : ผลไม้แห่งผิวพรรณ กินได้ทั้งสุกเป็นผลไม้ และสามารถใช้แบบดิบมาประกอบอาหารได้อีกหลายชนิด ที่ถูกปากกันไปทั่วโลกอย่าง “ส้มตำ” ก็ใช้มะละกอเป็นส่วนผสมหลัก แต่ในมะละกอ ทั้งสุกและดิบก็มีความเสี่ยงที่จะพบสารตกค้างมากถึง 7%
- กระเพรา : เมนูอาหารจานด่วนยอดฮิตของคนไทย อย่างผัดกระเพราะ ที่ไม่ว่าจะใส่เนื้อสัตว์อะไรก็ถูกปากไปเสียหมด แต่ใบกระเพรานี้แหละมีสารพิษตกค้างมากถึง 7%
- ถั่วฝักยาว : สำหรับพวกเราแล้ว ถั่วฝักยาวนี้แหละอันตรายเอามากๆ เพราะผู้คนส่วนมากนิยมทานกับแบบสดๆ โดนผ่านการล้างเพียงไม่กี่น้ำ ถึงแม้จะมีสารพิษตกค้างอยู่ที่ 7% ก็อันตรายไม่แพ้ 100% เลย
- คะน้า : ผักยอดนิยมของคนไทยอีกหนึ่งชนิด ที่มีสารพิษตกค้างไม่แพ้ผักชนิดอื่นๆเลย ยังดีที่ว่าการประกอบอาหารของผักคะน้าส่วนมากจะเป็นการนำไปผัด ปรุงสุกก่อนที่จะรับประทาน และผักคะน้าก็มีสารพิษตกค้างอยู่มากถึง 6%
- มะม่วงน้ำดอกไม้ : มะม่วงเป็นผลไม้ยอดนิยมทั้งคนไทย และประเทศเพื่อนบ้านในบ้านเรานั้นมะม่วงจัดเป็นผลไม้เศรษฐกิจซึ่งส่งออกมะม่วงเป็นอันดับ 3 ของโลก อีกทั้งมะม่วงมีวิตามินเอ วิตามินซี ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แต่ในมะม่วงตรวจพบสารพิษตกค้างได้มากถึง 4% เลยทีเดียว
- ผักกาดขาวปลี : ผักกาดขาวปลี เป็นผักอีกชนิดที่คนไทยนิยมทานกับแบบดิบๆ เป็นผักเครื่องเขียง ทำให้ผักชนิดนี้จึงมีความเสี่ยงที่จะพบสารพิษตกค้างได้มากึง 3%
Reference
http://www.thaihealth.or.th/Content
http://www.oknation.net/blog/sonorwut/2013/11/13/entry-1
http://health.sanook.com/3429/
http://thaipublica.org/2015/03/veget-chemical/
Write a comment: